Baldur's Gate 3

Baldur's Gate 3

Not enough ratings
[BG3] Build#016 ดาบคู่แห่งพิษพิชิตการใช้สมอง
By Kingreader-K
บิ้ว Endgame (Act 3 Lv12) สำหรับผู้ที่อยากได้บิ้วถืออาวุธคู่สายพิษ ที่ทั้งบิ้วง่ายและเล่นง่ายแบบไม่ต้องคิดเยอะ โดยไกด์นี้ จะอธิบายการทำบิ้ว, อุปกรณ์ที่จำเป็น, และวิธีการเล่นให้อย่างละเอียดระดับโมเลกุล

อ้างอิงจากเกม Version 4.1.1.4953010 (Patch 6 Hotfix 23)
   
Award
Favorite
Favorited
Unfavorite
Introduction & Overview
คุณเคยอยากเคยเล่นสายอาวุธคู่ที่บิ้วง่ายๆเล่นง่ายๆหรือไม่?
คุณเคยเห็นหรือเคยใช้อาวุธลับสุดยอดของสายพิษมั๊ย?
และคุณเคยเบื่อที่จะเตรียมการก่อนสู้อะไรเยอะแยะไปหมดหรือไม่?


สวัสดีเพื่อนๆนักผจญภัยทุกท่านครับ หลังจากห่างหายจากเกมนี้ไปนานเลย (เพราะไปติดอีกเกมนึงอยู่ 555) ก็ได้เวลาที่ผม Kingreader-K จะกลับมาพบกับทุกท่านอีกครั้ง พร้อมกับบิ้วใหม่สำหรับอุ่นเครื่องที่เรียกได้ว่าถอดสมองบิ้ว ถอดสมองเล่นกันได้เลยทีเดียวเชียวล่ะ

ผมเคยคิดจะบิ้วสายอาวุธ Melee คู่ (Dual Wielder) มานานแล้วครับ แต่ยังบิ้วได้ไม่สุดซักที พอดีว่าช่วงที่ผ่านมาได้กลับมาเกมนี้และไปแก้เรื่องวิธีการเอา Deva Mace หลังแพทช์ Hotfix 21 ... เลยทำให้ผมได้พบกับสิ่งนี้ และคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่หลายๆคนอาจจะไม่เคยใช้ ไม่เคยเอามาลองบิ้ว และอาจจะไม่เคยรู้ว่ามันเป็นอาวุธที่ทำดาเมจพิษได้แรงมากๆ ... ซึ่งมันก็คือ Djinni Scimitar นั่นเอง

อ่านมานี่หลายคนคงจะบอกว่า อะไรเนี่ย อาวุธบั๊กอีกแล้วเหรอ ... จะว่างั้นก็ได้ไม่ผิดครับ 555 แต่ถึงแม้คุณจะไม่ได้ใช้อาวุธนี้ คุณก็สามารถเล่นบิ้วนี้ได้นะ แต่อาจจะไม่ได้แรงเท่าเฉยๆครับ ... และผมยอมรับเลยว่า บิ้วนี้เป็นบิ้วเล่นง่ายทำง่าย ชนิดที่ว่า ถอดสมองเล่น (และถอดสมองทำบิ้วด้วย 5555) กันไปเลย เอาล่ะ เพื่อไม่ให้มันยืดยาวไปกว่านี้ ขอเชิญพบกับบิ้วแห่งการคัมแบ๊คแบบ No Brainer ของผมได้เลยครับ

การสร้างตัวละครที่ Level 01
Fighter Lv1

Origin/Race/Sub-Race - ผมแนะนำให้เล่น Half-Orc เลยครับ เพราะสำหรับบิ้วโจมตีทางกายภาพที่ต้องเอากายเนื้อเข้าห้ำหั่นกับศัตรู เผ่านี้ถือว่ามีภาษีดีกว่าเผ่าอื่นเยอะมาก เพราะมีสกิลที่กันตายได้ 1 ครั้ง แถมถ้าโจมตีติดคริ จะได้เต๋าดาเมจเพิ่มอีก ... แต่ถ้าคุณไม่ชอบ ก็เลือกเผ่าไหนก็ได้ครับ ไม่ได้มีผลต่างมากเท่าไหร่

Class - Fighter จะมีคลาสไหนถอดสมองได้มากกว่าคลาสนี้อีกล่ะครับ 5555

Fighting Style - ล็อคคอเลือกเป็น Two-Weapon Fighting ครับ ยกเว้นว่าคุณจะไม่ถืออาวุธคู่ทั้งสองมือ (แต่คุณอยู่ในบิ้วไกด์ Dual Wielder นะจ๊ะ) ก็ให้เลือก Defence แทนก็ได้ครับ

Abilities - บิ้วนี้เราจะเน้นอัพ Dex และ Con เป็น 16 ครับ ... ส่วนอย่างอื่นจะเท่าไหร่ก็ได้ ตามที่คุณสะดวกเลย ถ้าอยากกระโดดได้ไกลก็เพิ่ม Str ไป, ถ้าอยากคุยหรือขายของด้วย ก็เพิ่ม Cha แต่ส่วนตัวผมเพิ่ม Wis ไว้ช่วย Save จากเวทย์ล็อคทั้งหลายของศัตรูครับ

Abilities
Score
Strength
10
Dexterity
16
Constitution
16
Intelligence
8
Wisdom
14
Charisma
10

Skills - อันนี้อะไรก็ได้เลยครับ แต่ Acrobatics ก็ดีนะ เพราะเราไปเน้นอัพ Dex เยอะ

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 02
Fighter Lv2

เวลนี้ อัพง่ายๆเลยครับ เพราะเราไม่ต้องเลือกอะไรเลย สบายๆ แต่จำเป็นยิ่งยวดเพราะสิ่งที่เราจะได้จาก Fighter เวล 2 คือ Action Surge

Action Surge
สกิลเฉพาะตัวของ Fighter ที่สามารถใช้ได้ฟรีโดยไม่ต้องเสียแต้มอะไร แต่ต้องใช้ตอนอยู่ใน Combat เท่านั้น ใช้ได้ 1 ครั้ง / 1 Short Rest ครับ ... โดยเมื่อเราใช้ Action Surge (ใช้ได้เฉพาะตอนต่อสู้อยู่เท่านั้น) มันจะเพิ่ม Action Point ให้เรา 1 แต้มทันที ทำให้คุณสามารถโจมตี แดช หรือร่ายเวทย์ช่วยเพื่อนได้ในเทิร์นนั้น ถือเป็นของดีที่สายโจมตีประชิดต้องมีไว้เลยครับ

สำหรับบิ้วนี้ คุณจะสามารถตีศัตรูได้ 2 ครั้งต่อ 1 เทิร์นตั้งแต่เวล 2 หรือตั้งแต่เริ่ม Act 1 เลย ... ก็ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบของบิ้วนี้เลยครับ

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 03
Fighter Lv3

อันนี้ผมยกคำอธิบายมาจากบิ้ว 005 เลยนะครับ เพราะอัพแทบจะเหมือนกันเลย

Subclass - บังคับเลือก Battle Master ครับ Subclass ยอดนิยมอัพดับ 1 ของคลาส Fighter เลย โดยเราจะได้ Feature สำคัญมานั่นก็คือ...

Superiority Dice x4
อธิบายง่ายๆ เป็นแต้มสำหรับใช้สกิลของ Battle Master ครับ โดยเราจะได้ดาเมจเพิ่ม 1-8 หน่วย สำหรับบางท่าครับ ... โดยท่าพวกนี้เราจะเรียกว่า Manoeuvre ซึ่งผมจะขออธิบายทุกอันไว้ตรงนี้เพื่อให้ทุกคนเข้าใจก่อนนะครับว่าอันไหนทำอะไรได้บ้าง


Commander's Strike - ใช้ Action และ Reaction ของเรา ให้เพื่อนเราโจมตีศัตรูได้โดนใช้ Reaction ของเพื่อนคนนั้น ... เหมือนจะดีในบางสถานการณ์นะครับ แต่หลังๆ Reaction มีความจำเป็นพอสมควร ดังนั้น ผมยังถือว่าได้ไม่คุ้มเสียครับ
Disarming Attack - ใช้ Action ออกท่าโจมตี Melee หรือ Range เพื่อปลดอาวุธและได้ดาเมจเพิ่มจาก Superiority Dice ... อันนี้ถือว่าดีมากครับ เพราะสามารถมีโอกาสปลดอาวุธศัตรูเก่งๆได้ ทำให้เป็น 1 อันที่ควรเลือกไว้เลย
Distracting Attack - ใช้ Action ออกท่าโจมตี Melee หรือ Range เพื่อให้การโจมตีศัตรูตัวนี้ของเพื่อนเราติด Advantage 1 ครั้ง และได้ดาเมจเพิ่มจาก Superiority Dice ... เหมาะสำหรับการรุมตีบอสหรือตัวเก่งๆ แต่เราไม่ได้ประโยชน์โดยตรง ผมเลยเฉยๆกับท่านี้ครับ
Evasive Footwork - ใช้ Superiority Dice เพื่อทำให้ศัตรูที่ตีระยะประชิดใส่เราติด Disadvantage เป็นเวลา 1 เทิร์น ... เนื่องจากใช้ฟรีไม่เสีย Action อะไร แต่เป็นสกิลเน้นป้องกันมากกว่า ก็ขึ้นอยู่กับว่าเข้ากับสไตล์ที่คุณต้องการหรือไม่ครับ
Feinting Attack - ใช้ Action และ Bonus Action ออกท่าโจมตี เพื่อให้ติด Advantage และได้ดาเมจเพิ่มจาก Superiority Dice ... อันนี้ผมมองว่าไม่คุ้มสุดๆ ตัดออกจากตัวเลือกไปได้เลยครับ 555+
Goading Attack - ใช้ Action ออกท่าโจมตี Melee หรือ Range เพื่อบังคับให้ศัตรูตีแต่คุณเพราะถ้าไปตีคนอื่นจะติด Disadvantage และได้ดาเมจเพิ่มจาก Superiority Dice ... อันนี้ผมเฉยๆครับ เพราะใช้ได้ในบางสถานการณ์เท่านั้น
Manoeuvring Attack - ใช้ Action ออกท่าโจมตี Melee หรือ Range เพื่อโจมตี โดยหลังโจมตีสำเร็จจะสามารถเพิ่มระยะเดินให้เพื่อนได้แถมเพื่อนจะไม่โดน Opportunity Attack และได้ดาเมจเพิ่มจาก Superiority Dice ด้วย ... อันนี้ใช้ดีมาก สำหรับสถานการณ์ที่ต้องการให้เพื่อนเคลื่อนที่และโจมตีไปด้วยกัน หรือเอาไว้ให้เพื่อนที่เป็นแนวหลังหลบ Opportunity Attack ของศัตรูครับ
Menacing Attack - ใช้ Action ออกท่าโจมตี Melee หรือ Range เพื่อโจมตีศัตรูให้ติด Frightens และได้ดาเมจเพิ่มจาก Superiority Dice ... เป็นอีกท่าที่ดีมากๆ เพราะเมื่อศัตรูติด Frightens แล้วจะเดินไปไหนไม่ได้ เหมาะกับการล็อคศัตรูไว้กับที่ครับ
Precision Attack - ใช้ Superiority Dice เพื่อทำให้การโจมตีถัดไปของเราได้โบนะส Attack Roll เท่ากับ Superiority Dice ... เป็นท่าสำหรับใช้เพิ่มโอกาสการตีโดน เหมาะกับเวลาเจอศัตรูที่ AC สูงๆครับ
Pushing Attack - ใช้ Action ออกท่าโจมตี Melee หรือ Range เพื่อโจมตีและผลักศัตรูไป 4.5 เมตรและได้ดาเมจเพิ่มจาก Superiority Dice ... อันนี้ดีมาก เวลาที่คุณต้องการผลักศัตรูให้ตกแมพ หรือกระเด็นออกไปครับ เช่น ผลัก Steel Watcher ให้ตกน้ำหรือตกป้อมตายไปเลยในทีเดียวก็ยังได้
Rally - ใช้ Bonus Action เพิ่มเลือดชั่วคราว 8 หน่วยให้ตัวเราหรือเพื่อนในทีม ... ใช้ดีในช่วงแรกๆของเกม แต่ไม่มีประโยชน์ในช่วงกลางๆถึงท้ายเกมครับ
Riposte - ใช้ Reaction ในการโจมตีสวนกลับเมื่อศัตรูตีเราไม่โดนและได้ดาเมจเพิ่มจาก Superiority Dice ... เป็นท่าจำเป็นเลย เพราะเมื่อศัตรูตีเราวืด เราจะสามารถใช้ Reaction สวนกลับได้ แถมแรงกว่าตีปกติด้วย
Sweeping Attack - ใช้ Action ออกท่าโจมตี Melee เป็นวงกว้างและสามารถโดนศัตรูได้หลายตัว ... ดูเหมือนจะดี แต่ท่านี้ดันไม่ได้คิดดาเมจจากอาวุธนี่สิครับ ดังนั้นดาเมจมันจะเบามากๆจนแทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย ทิ้งจากตัวเลือกไปได้เลยครับ
Trip Attack - ใช้ Action ออกท่าโจมตี Melee หรือ Range เพื่อทำให้ศัตรูและได้ดาเมจเพิ่มจาก Superiority Dice ... อันนี้ดีมากเพราะทำให้ศัตรูล้มได้ เมื่อศัตรูล้มแล้วจะหลุด Concentrate และทุกคนที่โจมตีในระยะ 3 เมตรจะได้ Advantage ครับ เป็น 1 ท่าที่ต้องเลือกไว้ใช้เลย

โดยในเลเวลนี้ เราจะเลือกได้ 3 ท่าครับ ผมแนะนำ Disarming Attack, Riposte และ Trip Attack ก่อนครับ เพราะได้ใช้ประโยชน์จากท่าพวกนี้เยอะ

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 04
Fighter Lv4

Feat - อันแรกนี่ผมแนะนำให้เลือก Savage Attacker ครับ จะทำให้เราสามารถ Reroll ดาเมจได้ ประหนึ่งเหมือนเรามี Advantage เวลาเราโรลดาเมจ ทำให้ดาเมจจากการโจมตีระยะประชิดของเราอยู่ในโซนที่ค่อนกลางสูงครับ โดยเฉพาะกับบิ้วนี้ ที่เน้นโจมตีระยะประชิดล้วนๆ ก็ถือว่าได้ประโยชน์จาก Feat นี้ไปเต็มๆเลย

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 05
Fighter Lv5

เลเวลอัพรอบนี้ไม่ต้องเลือกอะไรเลยครับ เพราะเราจะได้สกิล Passive ที่เราต้องการมาเลย ก็คือ Extra Attack นั่นเอง ... การโจมตีได้ 2 ครั้งต่อ 1 Action Point นี่ถือเป็นสิ่งจำเป็นตอนเริ่มเกมเลย ... ซึ่งคลาสสายบู๊ส่วนใหญ่จะได้สกิล Extra Attack มาตอนเลเวล 5 แทบจะทั้งนั้นครับ

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 06
Fighter Lv6

อันนี้เป็นจุดที่พิเศษ 1 อย่างของคลาส Fighter คือคุณสามารถเลือก Feat ฟรีได้ตอนเวล 6 ครับ ซึ่งตรงนี้ผมแนะนำให้เลือกเพิ่ม Dex+2 ไปเลยครับ เพราะเราจะใช้อาวุธสาย Finesse ที่สามารถใช้ Dex เป็น Modifier ได้ แถม Dex ยังเพิ่ม AC และ Initiative ได้ด้วย ยังไงก็คุ้มค่าแลได้ใช้งานเต็มอิ่มครับ

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 07
Fighter Lv7

เวลนี้เราจะได้ Superiority Dice เพิ่มอีก 1 กลายเป็น 5 แต้มต่อ 1 Short Rest และยังสามารถเลือก Manoeuvre เพิ่มได้อีก 2 อย่าง ... รอบนี้ก็แนะนำเลือก Evasive Footwork ไว้ 1 อันครับ เพราะเมื่อคุณใช้แล้ว จะมีผลทำให้ศัตรูที่โจมตีคุณในระยะประชิด ติด Disadvantage ทั้งเทิร์นนั้นเลย และเมื่อทำบิ้วนี้ขั้นสุดจน AC ประมาณ 27-28 แล้ว ก็ยิ่งทำให้ศัตรูโจมตีคุณแทบจะ Miss ตลอดเวลาเลยล่ะครับ

ส่วนอีกอันจะเลือกอะไรก็ได้ ตามใจเลย ส่วนตัวผมเลือก Commander's Strike เอาไว้ใช้ให้เพื่อนในทีมที่ยังมีแต้ม Reaction สามารถโจมตีศัตรูได้ และบิ้วนี้เรายังมีแต้ม Bonus Action 2 แต้ม ทำให้สามารถใช้สกิลนี้ได้โดยไม่ต้องพะวงเรื่องเสียทรัพยากรเยอะครับ

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 08
Fighter Lv8

Feat - แนะนำให้เลือกเพิ่ม Dex+2 ด้วยเหตุผลเดิมกับตอนเลเวล 6 ครับ หรือถ้าคุณอยากจะถืออาวุธคู่อันอื่นด้วย ก็ให้เลือก Dual Wielder ไปก่อนแล้วค่อยไปเลือกเพิ่ม Dex+2 ในตอนเวล 12 แทนก็ได้ครับ

และเราจะหยุดการอัพเลเวล Fighter ไว้เพียงเท่านี้ครับ

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 09
Fighter Lv8 / Rogue Lv1

Class - Rogue เพื่อเอา Fast Hands ตอนเวล 3 และ Feat อีกอันตอนเวล 4 แค่นั้นครับ แต่ในเลเวล 1 และ 2 นั้น เราก็ยังได้สกิลแถมมา ซึ่งสามารถใช้งานได้อยู่นั่นก็คือ

Sneak Attack
โดยเมื่อเราได้ Advantage ในการโจมตีศัตรูตัวนั้นๆ หรือมีเพื่อนเรายืนติดศัตรูตัวนั้นอยู่ เราจะสามารถใช้สกิลนี้ในการเพิ่มดาเมจกายภาพได้ 1-6 หน่วย ใช้ได้แค่เทิร์นละ 1 ครั้งและใช้ได้แค่กับอาวุธสาย Finesse และอาวุธระยะไกลเท่านั้น ซึ่งดาเมจของสกิลนี้จะเพิ่มเต๋า 1d6 ทุกๆ 2 เวลของคลาส Rogue นั่นก็คือ
> Rogue เลเวล 1 จะได้ดาเมจเพิ่มจากสกิลนี้เป็น 1-6 หน่วย
> Rogue เลเวล 3 จะได้ดาเมจเพิ่มจากสกิลนี้เป็น 2-12 หน่วย
> Rogue เลเวล 5 จะได้ดาเมจเพิ่มจากสกิลนี้เป็น 3-18 หน่วย
> Rogue เลเวล 7 จะได้ดาเมจเพิ่มจากสกิลนี้เป็น 4-24 หน่วย
> Rogue เลเวล 9 จะได้ดาเมจเพิ่มจากสกิลนี้เป็น 5-30 หน่วย
> Rogue เลเวล 11 จะได้ดาเมจเพิ่มจากสกิลนี้เป็น 6-36 หน่วย

โดยในบิ้วนี้เราจะอัพ Rogue แค่เวล 4 ทำให้ได้ดาเมจจากสกิลนี้แค่ 2-12 หน่วยเท่านั้น แต่ก็ยังสามารถใช้งานได้นะครับ ผมแนะนำให้กดติ๊กถูกใน Reaction ไว้ให้หมดให้เราสามารถเลือกใช้เป็นดาเมจเพิ่มเติมได้

อีกอย่างในเลเวลนี้ เราจะเลือก Skills เพิ่มได้ 1 อันและ Expertise สำหรับสกิลที่เรามี Proficiency ได้อีก 2 อัน ก็เลือกเอาตามที่ถนัดเลยครับ

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 10
Fighter Lv8 / Rogue Lv2

ในเวลนี้ เราจะได้ Cunning Action: Hide, Dash, และ Disengage มา ซึ่งก็จะให้ผลเหมือนกับปกติ แต่ใช้แค่ Bonus Action แทน ... สำหรับสายที่ใช้ Bonus Action ทำดาเมจด้วย อันนี้ก็ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ แต่ก็ยังใช้เป็นทางเลือกในการเล่นได้ดีครับ

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 11
Fighter Lv8 / Rogue Lv3

Subclass - จำเป็นต้องเลือก Thief เท่านั้น เพื่อเอาสกิล Fast Hands ครับ เพราะ 1 Bonus Action ที่เพิ่มมาคือ เปรียบเสมือนทำให้เราโจมตีเพิ่มได้อีก 1 ครั้ง แถมยังเอาไว้ใช้ Dash หรือ Disengage จากสกิล Cunning Action ตอนเวลที่แล้วได้อีกด้วยครับ เลือกเลยเหอะขอร้องล่ะ 5555+

การอัพเกรดตัวละครที่ Level 12
Fighter Lv8 / Rogue Lv4

และแล้ว ก็มาถึงเลเวลสุดท้ายกันอย่างว่องไว เรียกได้ว่า ไวที่สุดในบรรดาบิ้วไกด์ที่ผมทำมาเลยครับ 555+

Feat - สำหรับคนที่เลือกเพิ่ม Dex+2 ตอนเลเวล 8 ไว้ ก็ให้เลือก Dual Wielder ตอนเวลนี้ครับ หากเลือกอีกอันไว้ก็สลับกันไป เพราะจริงๆ อาวุธที่เราใช้มันก็ไม่ต้องใช้ Feat Dual Wielder นะ เพราะติด Tag Light (เบา) ซึ่งสามารถถือคู่หรือขว้างได้ แต่ที่เอา Feat นี้ก็เพื่อ AC+1 และเอาไว้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากใช้อาวุธอื่นๆด้วยครับ

ถ้า AC+1 ดูไม่คุ้มสำหรับคุณ ก็สามารถเลือกอันอื่นได้นะ ผมแนะนำ Alert ที่ได้ใช้งานแน่ๆ ไม่ก็ Martial Adept ที่จะเพิ่มเต๋า Superiority Die ให้ 1 แต้มและเลือกท่าเพิ่มได้อีก 2 ท่าครับ

Equipment อุปกรณ์สวมใส่ที่จำเป็น
MINOR SPOILER ALERT!!!

สำหรับอุปกรณ์สวมใส่ที่จำเป็นนี่ ยังไงก็คงหลีกเลี่ยงการสปอยได้ยาก ... แต่ก็เช่นเดิม ผมจะทำแถบปิด Spoiler เอาไว้ และจะ Spoil ให้น้อยที่สุดครับ

หากใครกลัวพลาดหรือแค่อยากรู้ว่าชิ้นไหนทำอะไรได้บ้างจริงๆ ให้ข้ามไปดูสรุปข้อมูลได้เลย

Helmet ส่วนหัว/หมวก
Helm of Balduran

ของอีก 1 ชิ้นที่หลบสปอยได้ยากอีกแล้วครับ โดยเราจะได้มาจาก The Dragon's Sanctum ใน Act 3 ... ในตอนที่เราเจอซากมังกร Ansur ให้เดินเข้าไปด้านใน จะมีหมวกวางอยู่บนแท่นใกล้ๆกับทางออกครับ สามารถเข้าไปหยิบได้ก่อนสู้กับ Ansur ได้นะครับ

Cloak ส่วนผ้าคลุม
Cloak of Protection

หาซื้อได้จาก Quartermaster Talli ที่ Last Light Inn ใน Act 2

Armor/Clothing ส่วนเกราะ/ชุด
Armor of Agility

หาซื้อได้จาก Gloomy Fentonson ที่ Stormshore Armoury ใกล้ๆ Lower City Waypoint ใน Act 3

Gloves ส่วนถุงมือ
Poisoner's Gloves

หาได้จากหีบด้านใน House of Healing ใน Act 2

Boots ส่วนรองเท้า
Evasive Shoes

หาซื้อได้จาก Mattis ที่ Last Light Inn ใน Act 2

Amulet ส่วนสร้อยคอ
Broodmother's Revenge

ได้จาก Kagha ใน Act 1 เป็นส่วนนึงของเควส Investigate Kagha เราจะฆ่าเธอหรือทำให้สลบเพื่อ Loot ก็ได้ครับ

Rings ส่วนแหวน
Poisoner's Ring

หาซื้อได้จาก Roah Moonglow ที่ Moonrise Towers ใน Act 2

Ring of Protection

หาได้จาก Druid Grove ใน Act 1 ... เป็นรางวัลของเควส Steal the Sacred Idol ของ Mol หลังจากที่เราไปขโมยรูปปั้นมาให้เธอแล้ว

Melee Weapon ส่วนอาวุธประชิด
Djinni Scimitar

นี่คืออาวุธพระเอกของเราเลย วิธีหามาใช้มีอยู่ 2 แบบดังนี้ครับ
A. ใช้ Glitch แบบเดียวกับ Deva Mace ... โดยผมจะเรียบเรียงขั้นตอนคร่าวๆ ดังนี้
1. ใช้ตัวละครที่เป็น Cleric ที่นับถือ Tempus, Helm, Oghma หรือ Kelemvor ลงไปชั้นใต้ดินและเปิดหีบขโมยของในนั้นมา เราจะติดคำสาป Castigated By Divinity ... แนะนำว่า อยากได้ไอ้นี่กี่อัน ก็เอาจำนวนคนไปขโมยของในหีบให้ติดคำสาปตามจำนวนที่อยากได้เลยครับ
2. ให้เราใช้เวทย์ Remove Curse ร่ายใส่คนที่ติด Castigated By Divinity (แนะนำว่าให้ทำที่ Camp) มันจะมี Djinni ออกมาเป็นศัตรูกับเรา ให้เราฆ่ามันแล้วมันจะมีศพ Djinni อยู่ แต่มันจะยังไม่ดรอปอาวุธให้เรานะครับ
3. ให้เราใช้ตัวละคร Str เยอะๆเก็บศพเข้าตัวมา หลังจากนั้นไปพิมพ์ Search หาคำว่า 'Djinni Scimitar' ในช่องเก็บของ จะเจอเจ้านี่ ก็กดส่งไปให้เพื่อนในทีม หรือจะใช้วิธีกดเปลี่ยนอาวุธเอาก็ได้ครับ

B. ใช้ Bug ดึงอาวุธมาจาก Summon ... โดยการใช้เวทย์ Planar's Ally เรียก Djinni ออกมา แล้วกดเปิดหน้า Inventory จากนั้นกด Preview แล้วมันจะมีหน้าต่างช่องใส่อาวุธขึ้นมาแว๊บนึงครับ ตอนจังหวะนั้น ให้เราเลื่อนเม้าส์ไปคลิกซ้ายค้าง ลากอาวุธมันออกมาให้ได้ (มือต้องไวหน่อย) พอลากออกมาได้แล้ว ให้กด Tab เปิดหน้า Inventory ของทีม แล้วก็วางไว้ในช่องเก็บของของสมาชิกได้เลย เป็นอันเรียบร้อยครับ
อันนี้ถ้าใครสามารถทำได้ก็ให้ทำไว้เลยนะครับ เพราะหลังจากนี้ Dev จะปรับจะแก้อะไรอีก ผมเองก็ไม่รู้ ดังนั้น ถ้าอยากลองเล่นบิ้วนี้ ก็หาอาวุธนี้มาเก็บไว้ก่อนเลยครับ

Drakethroat Glaive

หาซื้อได้จาก Roah Moonglow ที่ Moonrise Towers ใน Act 2

Range Weapon ส่วนอาวุธระยะไกล
Darkfire Shortbow

หาซื้อได้จาก Dammon ที่ Last Light Inn ใน Act 2
สรุปความจำเป็นของอุปกรณ์แต่ละชิ้น
Helm of Balduran - ใส่เพื่อให้ได้โบนัสหลายๆอย่าง เช่น AC+1, ป้องกันการโดน Stun และโดน Critical Hit แต่สิ่งที่เราต้องการมากที่สุดคือ การ Heal ตัวเองทุกๆครั้งที่เริ่มเทิร์น เพราะมันจะส่งผลให้สกิลสร้อยเราทำงานครับ
Cloak of Protection - ใส่เพื่อเพิ่ม AC+1 และ Saving Throw +1
Armor of Agility - ใส่เพื่อเพิ่ม AC ที่ได้จากโบนัส Dex Modifier เต็มๆ เพราะโดยปกติเกราะ Medium จะเพิ่ม AC ที่ได้จาก Dex จำกัดแค่ +2 แต้ม แต่เกราะนี้สามารถเพิ่มได้สูงสุดเลย เช่น ถ้าเรามี Dex Modifier +5 (Dex 20) เราจะได้ AC จากเกราะนี้ = 17+5 = 22 หน่วยเลย ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถหลบการโจมตีได้เกือบทุกแบบ ยกเว้นเวทย์ดาเมจแบบ AOE
Poisoner's Gloves - เมื่อไหร่ก็ตามที่เราทำดาเมจพิษใส่ศัตรู ศัตรูตัวนั้นจะต้องโรล Con Saving Throw (DC13) ให้ผ่าน ไม่งั้นจะติดสถานะ Poisoned ซึ่งจะทำให้โดน Disadvantage ใน Attack Roll และ Ability Check ทุกอย่างเป็นเวลา 3 เทิร์น ... ไม่มีดาเมจเพิ่มแบบพิษที่เอาไว้เคลือบอาวุธ แต่ทำให้ศัตรูโดนดีบัฟทำให้โจมตีโดนเราได้ยากขึ้นครับ
Evasive Shoes - ใส่เพื่อเพิ่ม AC+1 และได้ของแถมเป็น Acrobatics+1 ด้วย
Broodmother's Revenge - เมื่อเราได้รับการ Heal จะได้ผลเหมือนเคลือบพิษให้อาวุธเรา 3 เทิร์น โดยอาวุธเราจะทำดาเมจพิษเพิ่มได้ 1-4 หน่วย เมื่อใช้กับหมวกที่ใส่ ก็คือจะถูกเคลือบทุกเทิร์นเลยทีเดียว เหมือนได้ดาเมจพิษฟรีตลอดเวลาครับ
Poisoner's Ring - ใส่เพื่อเอาสกิล Virulent Venom ซึ่งเป็นสกิลที่จะทำให้ศัตรูหรือ NPC จำนวน 3 ตัว โดนดาเมจพิษแรงขึ้นอีกเท่าตัวเป็นเวลา 10 เทิร์น โดยศัตรูต้องผ่าน Con Save DC14 ถึงจะรอดจากผลของสกิลได้ ... ใช้ได้ 1 ครั้งต่อ 1 Long Rest ถือเป็นสกิลที่ดีมากสำหรับเอาไว้จัดการกับศัตรูเก่งๆ แต่มีข้อเสียคือ ใช้กับศัตรูที่มีความต้านทานพิษไม่ได้
Ring of Protection - ใส่เพื่อเพิ่ม AC+1 และ Saving Throw +1
Djinni Scimitar - อาวุธพระเอกในบิ้วนี้ของเรา ถ้า Deva Mace เรียกว่าเป็นอาวุธลับสุดยอดสายดาเมจแสง Djinni Scimitar นี่ก็คือ อาวุธลับสุดยอดสายดาเมจพิษเลย เพราะนอกจากจะมี Stat Weapon Enchantment+1 แล้ว ยังมีดาเมจพิษติดอาวุธฟรีๆอีก 2-20 หน่วย (2d10) ซึ่งแม้จะไม่เยอะเท่าดาเมจแสงของ Deva Mace แต่ก็เป็นดาเมจที่รุนแรงพอจะจัดการศัตรูช่วงหลังๆได้สบายๆเลย
Drakethroat Glaive - ไม่ได้ใส่ แต่เอาไว้ร่ายสกิล Draconic Elemental Weapon ให้กับ Djinni Scimitar ในมือหลักครับ
Darkfire Shortbow - ใส่เพื่อให้ได้ค่า Resistance ของไฟและน้ำแข็ง รวมทั้งยังได้สกิล Haste ฟรี 1 ครั้งด้วย
Items อื่นๆที่จำเป็นสำหรับบิ้ว
Elixir of Bloodlust

ยาเทพที่ทุกคนต้องมี ผลของมันคือ เมื่อฆ่าศัตรูได้ จะได้ Action Point คืนมา 1 แต้ม มีผล 1ครั้ง/1เทิร์น นั่นหมายความว่า ถ้าคุณฆ่าศัตรูได้ในเทิร์นนั้น คุณจะโจมตีฟรีได้อีก 2 ครั้งครับ
Illithid Powers & Passive Bonus ที่จำเป็น
MAJOR SPOILER ALERT!!!

จริงๆถึงไม่มีพวกนี้ก็เล่นได้ แต่ถ้าอยากไปให้สุดก็ควรต้องมีบัฟและสกิลพวกนี้ครับ ผมจะแบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆก่อน คือ 1.Illithid Powers ที่แนะนำและ 2.Permanent Passive Buff ที่จำเป็นสำหรับบิ้วนี้

Illithid Powers ที่แนะนำกับบิ้วนี้

Luck of the Far Realms
เมื่อเราโจมตีศัตรูโดน จะสามารถบังคับติด Critical ได้ ใช้ได้ 1 ครั้ง / 1 Long Rest ถือว่าเป็นสกิลที่จำเป็นสำหรับสายโจมตีเลยครับ เพราะเราจะบังคับติดคริได้
Cull the Weak
เมื่อเราลดเลือดศัตรูให้ต่ำกว่าจำนวน Tadpole ในหัวเรา ศัตรูจะตายทันทีและระเบิดทำดาเมจพลังจิตใส่ศัตรูใกล้เคียงอีก 1-4 หน่วย เป็นสกิลที่ดีมาก สำหรับคนที่ใช้พลังของ Tadpole เยอะๆอยู่แล้ว เพราะถ้าคุณอัพเกรดจนครบ แค่คุณลดเลือดศัตรูลงมาเหลือแค่นิดหน่อยก็สามารถฆ่าศัตรูตัวนั้นได้ทันที พูดง่ายๆคือ ยิ่งใช้หนอนมาก สกิลนี้ก็ยิ่งได้ผลดีมากขึ้น และบอกลาความเซ็งตอนศัตรูเหลือเลือด 1 ไปได้เลย
Fly
อีกสกิลที่ตรงตามตัวเป๊ะๆเลย ทำให้เราสามารถเคลื่อนที่ได้ดีกว่าเดินปกติมากๆ ซึ่งสกิลนี้จะได้มาฟรีๆ เมื่อเรายอมเปิดใจรับพลังจาก Astral Tadpole ที่ได้จาก The Emperor ในตอนต้น Act 3 ครับ (แต่ต้องยอมลดสวยลดหล่อ มีเส้นเลือดดำขึ้นหน้านะ 5555)

Permanent Passive Buff ที่จำเป็นกับบิ้วนี้

[Act 3] Abilities+2 จากกระจก Mirror of Loss
หลังจากทำเควสของ Shadowheart ใน House of Grief แล้ว เข้าไปห้องด้านในที่เจอพ่อแม่ของน้อง จะมีกระจก Mirror of Loss อยู่ ตรงนี้ผมแนะนำให้เซฟไว้ก่อนนะครับ เพราะกระจกนี่ต้องผ่าน Skill Check หลายรอบมาก ผมจะเรียงไว้ให้คร่าวๆประมาณนี้
1. การ Activate กระจก ต้องผ่าน Skill Check สองอย่างคือ Religion (DC20) และ Arcana (DC25)
2. หลัง Activate กระจกแล้ว คนที่จะเพิ่ม Stat ต้องผ่าน Skill Check Religion (DC25) ของใครของมันเป็นรายบุคคลไป
3. หลังจากผ่านเช๊คทั้งหมดแล้ว เราจะสามารถมอบ Abilities 1 ใน 6 อันไหนก็ได้ของเราให้กับกระจก 2 แต้ม แล้วจะสามารถเลือกเพิ่ม Abilities 1 ใน 6 อันไหนก็ได้ของเรา 2 แต้มแทน เช่น คุณอาจะแลก Wis-2 แล้วเอา Cha+2 แทน
4. หลังจากเลือกได้แล้ว ให้ใช้ Remove Curse ลบคำสาปที่โดน -2 อยู่ ก็จะทำให้เรามีบัฟ +2 Abilities ที่เราเลือกไว้ฟรีๆอย่างถาวรครับ
5. ทำซ้ำข้อ 2-4 กับตัวละครอื่นๆได้ ยกเว้นจะเฟล Skill Check คนนั้นจะอดบัฟนี้ไปเลยถาวรครับ

ข้อนี้ให้เราเลือก Dex+2 ไปเลยครับ ซึ่งถ้าคุณอัพตามผมมา จะทำให้คุณมี Dex สูงสุดถึง 22 แต้ม และจะมี Dex Modifier เป็น +6 เลยเชียวล่ะ
วิธีการเล่นของบิ้วนี้โดยละเอียด
Role และแนวทางการเล่น
บิ้วนี้ทำหน้าที่ Melee Damage Dealer จ๋าๆเลยครับ สามารถใช้ท่า Disarm ในระยะไกลช่วยดรอปอาวุธศัตรูช่วยทีมได้ก็จริง แต่จะเฉิดฉายในระยะใกล้มากกว่า แถมบิ้วนี้ ยังเป็นบิ้วที่ AC สูงสุดเท่าที่ผมบิ้วมาเลย เรียกได้ว่าถ้าดันไปจริงๆ สามารถทำให้ AC ถึง 31 ได้ และทำให้ศัตรูติด Disadvantage ตอนโจมตีเราได้อีก ยืนรับทั้งวันก็ไหวครับ 5555+

ดาเมจของบิ้วนี้อาจจะไม่ได้หวือหวามากเท่าหลายๆบิ้วที่ผ่านมา เพราะตามคอนเซ็ปที่ผมเกริ่นไว้แต่แรก คือ 'เน้นบิ้วง่ายเล่นง่าย' ... แต่พอเอาไปเทสจริงๆ มันก็แรงพอจะสอบผ่าน Solo ค่าย Basilisk ระดับ Tactician ครับ โดยในบิ้วนี้ ผมจะไม่ขอแจงเรื่องตัวเลขดาเมจนะครับ แต่จะขอบอกเป็นข้อดีข้อเสียแทนนะ

ข้อดีหรือข้อได้เปรียบของบิ้วนี้
  • บิ้วง่าย เล่นง่าย อุปกรณ์ส่วนใหญ่สามารถหาได้ตั้งแต่ Act 2
  • มี AC สูงมากถึง 27-31 ทำให้ศัตรูโจมตีโดนเราได้ยากมาก
  • สามารถอัพสกิล Sleigh of Hand หรือ Stealth ไว้เล่นได้
  • โจมตีได้อย่างน้อย 4 ครั้งต่อ 1 เทิร์น ด้วยอาวุธ Djinni Scimitar ทั้งสองมือ (1 Action + 2 Bonus Action) และสูงสุด 10 ครั้งต่อ 1 เทิร์น (4 Action + 2 Bonus Action)
  • มีท่า Manoeuvres สำหรับทำดีบัฟศัตรูได้ เช่น Disarm ให้อาวุธหลุดมือ หรือ Trip ให้ศัตรูล้มแล้วตีซ้ำด้วย Sneak Attack
  • สามารถ Dash หรือ Disengage ด้วย Bonus Action ได้ ทำให้มีความคล่องตัวในสนามรบมาก
ข้อเสียหรือข้อเสียเปรียบของบิ้วนี้
  • ไม่เหมาะกับการต่อสู้ศัตรูที่มีความต้านทานดาเมจพิษ
  • เวทย์สกิลวงกว้างเป็นจุดอ่อนที่สำคัญ เพราะ AC ช่วยคุณไม่ได้ ดังนั้นต้องระวังหรือจัดการนักเวทย์ของศัตรูก่อนครับ
  • ไม่มีสกิลสำหรับโจมตีศัตรูแบบ AOE

พอรู้ข้อมูลคร่าวๆแล้ว เราลงไปดูเรื่องการเตรียมตัวและแนวทางการเล่นกันดีกว่าครับ

การเตรียมพร้อมแบบ Step by Step
บิ้วนี้นี่เรียกได้ว่าเตรียมตัวแบบ Basic สุดๆแล้วครับ
1. กินยา Elixir of Bloodlust
สรรพคุณตามที่แจ้งไว้แล้วครับ เท่ากับว่าถ้าคุณฆ่าศัตรูได้ในเทิร์นนั้น คุณจะโจมตีเพิ่มได้อีก 2 ทีเลย หลายๆคนที่อ่านบิ้วไกด์ผมบ่อยๆก็คงเดาทางได้ละ 555+
2. ดรอปอาวุธ Djinni Scimitar มือหลักไว้ที่พื้น ใส่ Drakethroat Glaive แล้วบัฟดาเมจธาตุให้อาวุธนั้น
มาถึงขั้นตอนในการเพิ่มดาเมจให้ตัวเรากันแล้วครับ โดยเริ่มจากการใส่ง้าว Drakethroat Glaive เพื่อให้ได้สกิล Draconic Elemental Weapon ซึ่งสกิลนี้จะบัฟให้อาวุธใดๆมีดาเมจธาตุที่เลือก 1-4 ดาเมจ ... จริงๆ สายอาวุธแทบทุกบิ้วผมก็ใช้ง้าวนี้บัฟดาเมจธาตุตลอดนะครับ คงไม่ต้องบอกสรรพคุณเพิ่มแล้วล่ะมั้ง
3. ร่าย Haste ฟรีก่อนเข้าการต่อสู้ (Optional)
เนื่องจากบิ้วนี้มี Haste จากธนูให้ใช้เพียงแค่ครั้งเดียว คุณอาจจะเก็บไว้ใช้ทีหลังก็ได้นะครับ อันนี้ขึ้นอยู่กับว่าอยากจะจัดการศัตรูให้เร็วขึ้นแค่ไหน

การใช้งานบิ้วนี้ในการต่อสู้แบบ Step by Step
เอาจริงๆ ตรงนี้ผมไม่ต้องเขียนอะไรก็ยังได้เลยนะ ถ้าคุณเตรียมพร้อมตามที่ผมบอกมาแล้ว คุณก็แค่เดินเข้าไปฟาดฟันดาบคู่พิษใส่ศัตรูจนกว่าจะไม่เหลือศัตรูให้คุณฟันอีกต่อไป แค่นั้นเลย 5555 ... แต่ว่า ถ้าคุณอยากจะ Min Max ดาเมจจริงๆ ผมก็มีวิธีเล่นมาเสนอขายอยู่ครับ
1. โจมตีศัตรูในระยะประชิด และฆ่าให้ได้อย่างน้อย 1 ตัว เพื่อให้ผลของยา Bloodlust ทำงาน
ข้อนี้ผมแนะนำให้เน้นตัวที่เลือดน้อยๆก่อนเพื่อเอา Action Point ฟรีจากผลของยา Blooslust ครับ
2. ใช้สกิล Virulent Venom ใส่ศัตรู 3 ตัว
อันนี้พูดยากนิดนึงครับ เพราะ Con Save DC มันเป็นค่าตายตัวที่ 14 และต้องใช้ Action Point แถมศัตรูก็มีสิทธิ์รอดจากผลของสกิลอีก ... แต่ถ้าติดล่ะก็ คุณจะสามารถทำดาเมจในการโจมตีเพิ่มได้ถึง 2-20 หน่วยต่อ 1 ครั้งเลยทีเดียว อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณครับ ว่าสถานการณ์ตอนนั้นควรใช้ขนาดไหน
3. ใช้ Trip Attack โจมตีศัตรูให้ล้ม แล้วซ้ำด้วย Sneak Attack
เพิ่ม % การโจมตีให้โดนและเพิ่มดาเมจง่ายๆด้วย Trip Attack สิครับ พอศัตรูล้มแล้ว ก็เพิ่มดาเมจกายภาพจาก Sneak Attack ไปอีก คอมโบสบายๆ ยกเว้นดวงคุณจะ Attack Roll ได้ 1 ทั้งสองเต๋าพร้อมกัน อันนั้นก็ยอมรับชะตากรรมไปครับ 555+
4. ใช้ Disarm Attack ใส่ศัตรูที่โจมตีแรงๆ
เจอศัตรูที่ถืออาวุธหนักๆ โจมตีแรงๆเหรอ? ปลดอาวุธมันสิครับ แม้แต่เหล่า Steel Watcher ถ้าโดนปลดอาวุธมันก็แค่หุ่นกระป๋องอัดระเบิดเดินได้ดีๆนี่เอง
5. เมื่อศัตรูรุมล้อม หรือต้องการยืนรับท่าศัตรู ใช้ Evasive Footwork สิครับ
เนื่องจากมันไม่เสีย Action หรือ Bonus Action ใดๆ ก่อนจบเทิร์นก็ให้ใช้ท่านี้ไว้ จะทำให้ศัตรูโจมตีโดนคุณได้ยากขึ้นไปอีกครับ

อันนี้เป็นแนวทางส่วนตัวและไอเดียในการเล่นบิ้วนี้ของผมครับ สำหรับใครที่มีแนวทางแบบอื่นๆหรือชอบเล่นแบบไหน ก็มาเสนอแนะพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้เลยนะครับผม

อาวุธทางเลือกในการ Dual Wield
ถ้า Djinni Scimitar ไม่ใช่แนวของคุณ หรือคุณคิดว่า อยากเล่น Dual Wield อาวุธปกติ ผมก็มีแนะนำให้ ดังนี้เลยครับ
  • Phalar Aluve - ดาบ Longsword สุดเทพที่ใครๆก็ชอบ เพราะมีบัฟเพลงที่เอาไว้ทำดาเมจ Thunder ใส่ศัตรูได้ แถมดาบนี้ ยังสามารถหามาใช้ได้ตั้งแต่ Act 1 เลยด้วย
  • The Blood of Lathander - กระบองแห่งแสง อาวุธ Legendary อันแรกที่เราสามารถหามาใช้ได้ตั้งแต่ Act 1 เลย ตัวกระบองเองไม่ได้มีอะไรที่ดีมาก นอกจากแสงที่ทำให้ศัตรูที่เป็นปีศาจหรือผีดิบตาบอดได้ และเวทย์โจมตีเลเวล 6 อย่าง Sunbeam ที่สามารถเอามากลบจุดอ่อนเรื่องที่ไม่มี AOE ของบิ้วนี้ได้
  • Belm - ดาบโค้งของใครบางคนจากภาคเก่า เป็นดาบที่สามารถใช้ท่า Whirlwind ในการโจมตีศัตรูรอบๆแบบ AOE ได้ เสียแค่กว่าจะได้ก็ต้องไปถึง Act 3 เลยครับ
  • Flail of Ages - อาวุธที่เปิดโหมดธาตุได้ถึง 3 แบบ สามารถทำสถานะใส่ศัตรูได้ดี แต่ก็มีข้อเสียเหมือนกับ Belm คือกว่าจะได้มาก็ต้อง Act 3 ครับ
จริงๆแล้วก็ยังมีอีกหลายอาวุธเลยที่สามารถใช้ Dual Wield ได้ ซึ่งถ้าคุณมี Feat Dual Wielder แล้ว จะถืออาวุธไหนคู่กันก็ได้เลยครับ แต่ผมแนะนำว่า ถ้าอัพ Dex มาตามบิ้วผม ควรถืออาวุธประเภท Finesse นะครับ เพราะจะทำให้ใช้ Dex เป็น Modifier แทน Str ได้ ไม่อย่างนั้น คุณควรจะไปปรับ Respec ให้แต้ม Str สูงๆแทน เพื่อให้ใช้ Dual Wield อาวุธสาย Str ได้ดีขึ้นครับ
Conclusion
เสร็จไปกับอีก 1 บิ้วนะครับ สารภาพเลยว่าเป็นบิ้วที่นั่งคิดมานาน แต่เทสและเขียนจบในวันเดียวเลยเนื่องจากรายละเอียดไม่เยอะ ก็อปมาจากบิ้วไกด์เก่าๆได้เลยทำให้จบไกด์ได้เร็วมาก ... สำหรับคนที่ไม่ชอบทำบิ้วเลือกนู่นนี่นั่นให้วุ่นวาย บิ้วนี้อาจจะตอบโจทย์ของคุณได้ดีเลยล่ะ ยังไงก็เอาไปลองดูกันนะครับ ... ช่วงนี้ผมก็ยังไลฟ์อีกเกมอยู่ แต่จะหาเวลามาเล่นเกมนี้เรื่อยๆครับ ก็แน่ล่ะ เกมดี เกมในดวงใจซะขนาดนี้ ใครจะทิ้งได้ลงละเนอะ ... สำหรับใครที่อยากได้บิ้วแบบไหน เช่นเดิม พูดคุยหรือแนะนำกันได้เลยนะครับผม แต่ผมจะทำหรือไม่ก็อีกเรื่องนึงนะ 555+

ขอให้ทุกท่านถอดสมองพักผ่อน แล้วฟาดฟันดาบพิษใส่ศัตรูให้อาสัญบรรลัย ไว้พบกันใหม่บิ้วไกด์หน้าครับ
Bonus รวมคลิปการบิ้ว วิธีเล่น และเทสรัน
สำหรับใครที่ขี้เกียจอ่านเรียงความยาวๆของผมนะครับ ลองดูในคลิปด้านล่างได้เลย ผมทำเผื่อไว้ให้แล้ว ... สามารถพูดคุยสอบถามได้จากในคลิปหรือในไกด์นี้ได้เลยนะครับ

คลิปการทำบิ้วตั้งแต่ Level 01-12


คลิปวิธีเล่นแบบคร่าวๆและอุปกรณ์ที่ใช้


คลิป Tactician Solo Test Run

Link Guide&Build อื่นๆที่ผมได้ทำไว้
สำหรับใครที่ขี้เกียจเลื่อนหา หรืออาจจะหาไกด์ไหนไม่เจอ ลองกดไปดูในสารบัญรวมเล่มนี้ได้เลยครับ
https://test-steamproxy.haloskins.io/sharedfiles/filedetails/?id=3140547253